เมื่อองค์กรต้องเผชิญความไม่แน่นอน การมีผู้นำที่ยืดหยุ่นและฟื้นตัวได้เร็ว หรือ Resilient Leader คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมยังเดินต่อได้อย่างมั่นใจ ผู้นำแบบนี้ไม่เพียงควบคุมอารมณ์และตัดสินใจได้ท่ามกลางแรงกดดัน แต่ยังมองเห็นทางออก สื่อสารชัด และดึงศักยภาพทีมให้ลุกขึ้นสู้ไปด้วยกันอีกครั้ง
Resilient Leader ทักษะผู้นำ พาทีมฝ่าวิกฤต
ความสามารถในการปรับตัว
รับมือวิกฤตด้วยความสามารถ โดยไม่ยึดติดกับกรอบเดิมที่อาจกลายเป็นทางตัน ใช้สติและวิจารณญาณแยกแยะต้นตอของปัญหา ดำเนินการหยุดยั้งความสูญเสียเป็นอันดับแรก แล้วค่อยจัดการปัญหาอื่นตามลำดับความสำคัญต่อไป
มีความฉลาดทางอารมณ์
ควบคุมสติ ทำความเข้าใจกับปัญหา และจัดการอารมณ์ตื่นตระหนกหรือความหวาดกลัวที่อาจสร้างความเสียหายต่อตนเองและผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทีมงานหรือผู้ถือหุ้น จากนั้นดึงศักยภาพของบุคลากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กร หรือเปลี่ยนการปฏิบัติงานแนวใหม่เพื่อรับมือกับสถานการณ์
มีวิสัยทัศน์ชัดเจน
กำหนดทิศทางนำองค์กรไปสู่เป้าหมายอย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคหรือแรงกดดันจากผู้มีอิทธิพล (ผู้ถือหุ้น/ครอบครัว) พร้อมสื่อสารให้ทีมงานทุกระดับเข้าใจทิศทาง ขั้นตอน และวิธีปฏิบัติงานอย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจตรงกัน และเดินไปข้างหน้าบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน
กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น หากข้อมูลไม่เพียงพอ ต้องอ้างอิงหลักการบนพื้นฐานการวิเคราะห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดระดับความสูญเสีย ไม่ให้ร้ายแรงมากจนทำให้องค์กรไปต่อไม่ได้
สร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา
สร้างแรงกระตุ้น สร้างพลังใจให้ทีมงานกลับมาปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มใจ ยอมรับ ให้ความร่วมมือด้วยความรักในองค์กร เพราะพนักงานทุกคนคือกลไกหลักที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต
อ่านบทความนี้เพิ่มเติม ในวารสาร HR Society ฉบับเดือนกันยายน 2568
อ่านบทความอื่นๆ
บทบาทของ HR เมื่อองค์กรเจอวิกฤต
เทคนิคใช้ AI สร้างทัศนคติเชิงบวกในองค์กร
สิทธิประโยชน์แรงงานกรณีสูญหายและสาบสูญ