02 มีนาคม 2565

รวบรวมมาตรการเยียวยาโควิด-19

จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยาวนานมากกว่า 1 ปี จนถึงระลอกที่ 3 ส่งผลกระทบรุนแรงขึ้น ต่อประชาชนและภาคธุรกิจอย่างทวีคูณ ทางภาครัฐจึงได้ยกระดับการควบคุมโควิด-19 ออกมาตรการในการช่วยเหลือ ทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้าน เงินเยียวยา ลดภาระค่าใช้จ่ายและหนี้ รวมถึง สวัสดิการการรักษาต่าง ๆ ซึ่งธรรมนิติขอรวบรวมมาตรการต่าง ๆ ไว้ดังนี้

โครงการเยียวยานายจ้างและลูกจ้างผู้ประกันตน มาตรา 33, 39, 40 *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

 

ผู้ได้รับสิทธิ

กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม

• กรุงเทพมหานคร

• ชลบุรี

• ฉะเชิงเทรา

•นครปฐม

• นราธิวาส

• นนทบุรี

• ปทุมธานี

• พระนครศรีอยุธยา

• สมุทรปราการ

• สมุทรสาคร

• ปัตตานี

• ยะลา

• สงขลา

 

กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในพื้นที่ 16 จังหวัดสีแดงเข้ม

• กาญจนบุรี

• ตาก

• นครนายก

• นครราชสีมา

• ประจวบคีรีขันธ์

• ปราจีนบุรี

• เพชรบูรณ์

• ระยอง

• ราชบุรี

• ลพบุรี

• สิงห์บุรี

• สมุทรสงคราม

• สระบุรี

• สุพรรณบุรี

• อ่างทอง

• เพชรบุรี

 

ประกอบสาขาอาชีพ ต่อไปนี้

1. กิจการก่อสร้าง

2. กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร

3. กิจการศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ

4. กิจการกิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ

5. สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า

6. สาขาการขายส่งและการขายปลีก

7. สาขาการซ่อมยานยนต์

8. สาขากิจกรรมการบริหารและสนับสนุนวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมวิชาการ

9. สาขาข้อมูลข่าวสารและการศึกษา

 

สำหรับลูกจ้าง ม.33 พื้นที่ 13 จังหวัด

ได้รับชดเชยเงินเดือน 50% ของค่าจ้าง หากมีสัญชาติไทย ได้รับเพิ่มคนละ 2,500 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท

ระยะเวลา 2 เดือน คือ ส.ค. – ก.ย. 64 (จากเดิม 1 เดือน)

 

สำหรับนายจ้าง ม.33 พื้นที่ 13 จังหวัด

ได้รับการเยียวยาค้าจ้างลูกจ้าง 3,000 บาท / ลูกจ้าง 1 คน รายละไม่เกิน 200 คน

ระยะเวลา 1 เดือน คือ ก.ย. 64

 

สำหรับลูกจ้าง ม.39, 40 พื้นที่ 13 จังหวัด

ได้รับเงินเยียวยาคนละ 5,000 บาท

ระยะเวลา 2 เดือน คือ ส.ค. – ก.ย. 64 (จากเดิม 1 เดือน)

 

สำหรับลูกจ้าง ม.33 พื้นที่ 16 จังหวัด

ได้รับชดเชยเงินเดือน 50% ของค่าจ้าง หากมีสัญชาติไทย ได้รับเพิ่มคนละ 2,500 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท

ระยะเวลา 1 เดือน คือ ส.ค. 64 *สิ้นสุดระยะเวลา

 

สำหรับนายจ้าง ม.33 พื้นที่ 16 จังหวัด

ได้รับการเยียวยาค้าจ้างลูกจ้าง 3,000 บาท / ลูกจ้าง 1 คน รายละไม่เกิน 200 คน

ระยะเวลา 1 เดือน คือ ส.ค. 64 *สิ้นสุดระยะเวลา

 

สำหรับลูกจ้าง ม.39, 40 พื้นที่ 16 จังหวัด

ได้รับเงินเยียวยาคนละ 5,000 บาท

ระยะเวลา 1 เดือน คือ ส.ค. 64 *สิ้นสุดระยะเวลา

 

โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

โดยเติมเงินเข้าในบัตร 200 บาท/เดือน ระยะเวลา 6 เดือน รวมวงเงินคนละ 1,200 บาท

 

ผู้ได้รับสิทธิ

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

 

ระยะเวลา

เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค. – ธ.ค. 64 รวมทั้งสิ้น 6 เดือน

 

ไทม์ไลน์โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ตั้งแต่เดือน ม.ค. – มี.ค. 64 เติมเงินเข้าในบัตร 500 บาท/เดือน ระยะเวลา 3 เดือน

ตั้งแต่เดือน ต.ค. – ธ.ค. 63 เติมเงินเข้าในบัตร 500 บาท/เดือน ระยะเวลา 3 เดือน

 

โครงการคนละครึ่ง เฟสที่ 3 *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

โดยจะเพิ่มวงเงินให้คนละ 3,000 บาท แบ่งเป็น 2 รอบ ดังนี้

• รอบ ก.ค. – ก.ย. 64 จำนวน 1,500 บาท

• รอบ ต.ค. – ธ.ค. 64 จำนวน 1,500 บาท

เพิ่มวงเงินให้อีก คนละ 1,500 บาท (มติ ครม. 19 ต.ค. 64)

• รอบ พ.ย. – ธ.ค. 64

 

ผู้ได้รับสิทธิ

ประชาชนที่ไม่ได้เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน) และ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้

 

ระยะเวลา

เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 64

 

ไทม์ไลน์โครงการคนละครึ่ง

เฟสที่ 2 ตั้งแต่เดือน ม.ค. – มี.ค. 64 จำนวน 3500 บาท/เดือน ระยะเวลา 3 เดือน

เฟสที่ 1 ตั้งแต่ 23 ต.ค. 63 – ธ.ค. 63 จำนวน 3000 บาท/เดือน ระยะเวลา 3 เดือน

 

โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

รัฐสนับสนุนวงเงินผ่านบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ E-Voucher ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม ค่าสินค้า ค่าบริการ สปา/นวด/ทำผม ทำเล็บ วงเงิน 60,000 บาท ไม่เกินคนละ 7,000 บาท (มติ ครม. 19 ต.ค. 64) ปรับเพิ่มวงเงิน E-Voucher เป็น 80,000 บาท ไม่เกินคนละ 10,000 บาท

 

ผู้ได้รับสิทธิ

ประชาชนที่ไม่ได้เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน) และ โครงการคนละครึ่งเฟสที่ 3

 

ระยะเวลา

เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 64

 

โครงการช่วยเหลือค่าเทอมนักเรียน จำนวน 2,000 บาท *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

 

ผู้ได้รับสิทธิ

กลุ่มนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล, ม. 6, ระดับอาชีวศึกษา, ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)

 

สำหรับโรงเรียนรัฐบาล สังกัด สพฐ.

โอนเงินเข้าบัญชีผู้ปกครอง ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 64 เป็นต้นไป

 

สำหรับสถาบันอาชีวะศึกษา

รับเงินสด ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 64 เป็นต้นไป

 

สำหรับโรงเรียนเอกชน

โอนเงินเข้าบัญชีผู้ปกครอง ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 64 เป็นต้นไป

 

สำหรับการศึกษานอกโรงเรียน

รับเงินสด ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 64 เป็นต้นไป

 

โครงการเยียวยานายจ้าง อุดหนุนการจ้างงาน นายจ้าง ม.33 SMEs  *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

นายจ้างจะได้รับเงินจำนวน 3,000 บาท / คน / เดือน นาน 3 เดือน โดยนายจ้างที่ได้รับสิทธิต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในเดือน ต.ค. 64

 

ผู้ได้รับสิทธิ

• นายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม

• มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน

 

เงื่อนไขสำคัญ

• เงินอุดหนุนคำนวณตามยอดการจ้างจริงทุกเดือน

• นายจ้างจะต้องรักษาการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 95% ในระหว่างร่วมโครงการ (หากต่ำกว่า 95% จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น ๆ )

• หากมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงาน ไม่เกิน 5% ของจำนวนลูกจ้าง

 

ระยะเวลา

เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 – ม.ค. 65

มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

 

1. ลดค่าน้ำ

สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 10% สำหรับใบแจ้งค่าน้ำเดือน .. – .. 64

 

2. ลดค่าไฟฟ้า

สำหรับบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก กิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ กิจการเฉพาะอย่าง องค์กรไม่แสวงหากำไร และการสูบน้ำเพื่อการเกษตร สำหรับใบแจ้งค่าไฟเดือน ก.ค. – ส.ค. 64 โดยใช้เกณฑ์ค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 เป็นเกณฑ์

 

เงื่อนไข

1. ประเภทบ้านอยู่อาศัย

ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน ได้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก

 

2. ประเภทบ้านอยู่อาศัย

ที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วย/เดือน ยึดค่าไฟฟ้าตามใบแจ้งหนี้เดือน ก.พ. 64 เป็นเกณฑ์​ และมีวิธีคิด ดังนี้

 

2.1 ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 ให้คิดค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้ไฟฟ้าจริง

2.2 ใช้ไฟฟ้ามากกว่าใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 ให้คิดค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้ ดังนี้

 

กรณีหน่วยการใช้ไฟฟ้ามากกว่าใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 ให้คิดค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้ ดังนี้

• ไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64

มากกว่า 500 หน่วย/เดือน แต่ไม่เกิน 1,000 หน่วย คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 บวกด้วยหน่วยการใช้ไฟฟ้ที่มากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 ในอัตรา 50%

มากกว่า 1,000 หน่วย ให้คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 บวกด้วยหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่มากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน ก.พ. 64 ในอัตรา  70% โดยให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

3. ประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ)

ได้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี  100 หน่วยแรก

 

4. ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ กิจการเฉพาะอย่าง องค์กรไม่แสวงหากกำไร และการสูบน้ำเพื่อการเกษตร

ได้รับยกเว้นการเรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด (Minimum Charge) ไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 64 โดยให้จ่ายค่าความต้องการพลังไฟฟ้าตามกำลังไฟฟ้าที่ใช้จ่ายจริง

 

3. ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ (1 สิทธิ/ 1 ครัวเรือน) *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

 

ระยะเวลา

ตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 – เดือน ก.ย. 65 รวม 12 เดือน

 

เงื่อนไข

1. ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่แล้ว

2. กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ วงเงิน 315 บาท/ครัวเรื่อน/เดือน

3. กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้ถือบัตรฯ จ่ายค่าไฟฟ้าเองทั้งหมด

4. สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน

5. กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท เอง

6. กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท โดยที่ผู้มีบัตรฯ จ่ายค่าน้ำประปาเองทั้งหมด

1. พักชำระหนี้ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

• พักชำระหนี้ ด้วยการพักชำระเงินต้น และ/หรือ ดอกเบี้ย และ/หรือ ลดอัตราดอกเบี้ย

• ขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ออกไปจนถึง วันที่ 31 ธ.ค. 64 ตามความสมัครใจ และสามารถทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้

 

2. สนับสนุนสินเชื่อ สินเชื้อฟื้นฟู และพักทรัพย์ พักหนี้ ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

• เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ ประชาชนทั่วไป ธุรกิจรายย่อย SMEs ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19

 

3. ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

• ขยายเวลาการดำเนินโครงการสินเชื่อ Extra Cash ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

• สำหรับผู้ประกอบการ ในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอื่น ๆ ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

• ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ระยะเวลากู้ 5 ปี

• ขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึง วันที่ 30 ธ.ค. 64

 

4. ปรับปรุงการดำเนินโครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย ของธนาคารออมสิน *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

• สำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวและ Supply Chain

• ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี

• ขยายระยะเวลากู้ไม่เกิน 7 ปี (จากเดิม 5 ปี)

• ขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 2 ปี (จากเดิม 1 ปี)

• ขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึง วันที่ 30 ธ.ค. 64

 

5. ขยายกลุ่มเป้าหมายของโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ SMEs มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว ของธนาคารออมสิน *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

• สำหรับผู้ประกอบการ ที่ใช้หลักประกันเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและไม่ต้องผ่านการตรวจเครดิตบูโรวงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท

• ดอกเบี้ย 0.1% 0.99% และ 5.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ 3 ปี

• ขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมถึงธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ระลอกใหม่ เช่น ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ธุรกิจบันเทิง

• ขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึง วันที่ 30 ธ.ค. 64

 

6. มาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน *สิ้นสุดมาตรการเมื่อเดือน ส.ค. 64

เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

• พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เริ่มเดือน ก.ค. 64

• สำหรับลูกหนี้ SMEs และลูกหนี้รายย่อย เป็นนายจ้างและลูกจ้างของสถานประกอบการที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

• หากหมดระยะพักหนี้ จะไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ในทันที

ติดเชื้อโควิด-19 และแพ้วัคซีน รักษาฟรี *มาตรการยังคงดำเนินการอยู่

 

ผู้ได้รับสิทธิ

• ผู้ป่วยโควิด-19

• ผู้ได้รับการฉีดวัคซีนจากรัฐที่มีอาการแพ้ (ไม่รวมวัคซีนทางเลือก)

• เข้ารับการรักษาจากสถานพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

Copyright ©2024  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?