บริษัทต้องทำอย่างไร? เมื่อกรรมการและผู้ถือหุ้นเสียชีวิต

• แชร์บทความ
• ทวีต
• ส่งไลน์

เมื่อกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทเสียชีวิต บริษัทต้องเร่งดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเปลี่ยนแปลงกรรมการ จัดประชุมใหม่หากกระทบองค์ประชุม รวมถึงจัดการเรื่องหุ้นของผู้ถือหุ้นที่เสียชีวิตซึ่งถือเป็นทรัพย์มรดกตกทอด โดยต้องมีการโอนสิทธิอย่างถูกต้อง ทายาทจึงจะสามารถใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นได้ หากละเลยอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินงานหรือประชุมได้ตามปกติ

กรรมการบริษัทเสียชีวิต ต้องดำเนินการอย่างไร ?

เมื่อกรรมการของบริษัทจำกัดเสียชีวิต จะถือว่า “พ้นจากตำแหน่งกรรมการโดยอัตโนมัติตามกฎหมาย” บริษัทต้องดำเนินการแต่งตั้งกรรมการใหม่

• กรณีกรรมการเสียชีวิต และมีผลกระทบต่อองค์ประชุม เช่น กรรมการที่เสียชีวิตเป็น “กรรมการคนเดียว” หรือเป็น “กรรมการที่มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทเพียงผู้เดียว”

• ต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทก่อน

• ต้องจัดประชุมคณะกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นแล้วแต่กรณี โดยอ้างอิงจากข้อบังคับของบริษัท

ผู้ถือหุ้นเสียชีวิต ต้องดำเนินการอย่างไร ?

เมื่อผู้ถือหุ้นเสียชีวิต หุ้นดังกล่าวจะถือเป็น “ทรัพย์มรดก” ซึ่งตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมายหรือพินัยกรรม (ถ้ามี)

• หากผู้เสียชีวิต ถือหุ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้หุ้นของผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ นับรวมกันได้ไม่ครบจำนวนที่จะเป็นองค์ประชุมผู้ถือหุ้นตามที่กฎหมาย หรือ ข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ ต้องให้ทายาท ทุกคนของผู้ถือหุ้นที่เสียชีวิต ตกลงกันตั้งทายาทคนหนึ่งขึ้นมา เพื่อใช้สิทธิเข้าร่วมประชุมแทนผู้ถือหุ้นที่เสียชีวิต

• หากทายาทไม่สามารถตกลงกันได้ อาจต้องยื่นคำร้องขอต่อศาล เพื่อตั้งผู้จัดการมรดก ให้มาใช้สิทธิในหุ้นของผู้ถือหุ้นที่เสียชีวิตแทน

• หากไม่มีการโอนหุ้นอย่างถูกต้อง ทายาทจะ ไม่มีสิทธิเข้าประชุมหรือออกเสียง ในฐานะผู้ถือหุ้น

เอกสาร – หลักฐาน

ที่ใช้ในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงแก้ไขกรรมการ และ / หรือ อำนาจกรรมการ

1. คำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด (แบบ บอจ. 1)

2. แบบคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด

3. รายการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม (แบบ บอจ.4)

4. รายละเอียดกรรมการ (แบบ ก.) ใช้เฉพาะกรณีมีกรรมการเข้าใหม่

5. หลักฐานการอนุญาตแต่งตั้งกรรมการใหม่ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ใช้เฉพาะในการประกอบธุรกิจที่มีกฎหมายพิเศษควบคุม)

6. สำเนาบัตรประจำตัวของคณะกรรมการเข้าใหม่ทุกคน

7. สำเนาใบมรณบัตร (ใช้เฉพาะกรณีกรรมการถึงแก่กรรม)

8. คำสั่งศาล (ถ้ามี)

9. สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน

10. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)

11. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)

ค่าธรรมเนียม และ สถานที่ ที่ใช้ในการจดทะเบียน

ค่าธรรมเนียม

1. การจดทะเบียนแก้ไขกรรมการ และ /หรือ อำนาจกรรมการ 500 บาท

2. หนังสือรับรอง รายการละ 40 บาท

3. รับรองสำเนาเอกสาร หน้าละ 50 บาท

สถานที่จดทะเบียน

1. บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ในเขต กทม. ยื่นขอจดทะเบียนที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สนามบินน้ำ) สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 (ปิ่นเกล้า พหลโยธิน รัชดาภิเษก สี่พระยา ศรีนครินทร์ (ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค) และแจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา) เฉพาะธุรกิจหลักทรัพย์ ให้ยื่นขอจดทะเบียน ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สนามบินน้ำ)

2. บริษัทจำกัดที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอื่น ให้ยื่นขอจดทะเบียนที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในจังหวัดที่บริษัทจำกัดนั้นมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่

อ่านบทความอื่นๆ
ความสัมพันธ์ระหว่าง “ผู้ถือหุ้น กรรมการ และบริษัทจำกัด” 
ประเด็นภาษี VS กรณีบริษัทกู้ยืมเงิน กรรมการ ผู้ถือหุ้น 
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับ “การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” สำหรับผู้บริหารระดับสูง กรรมการบริหาร และกรรมการบริษัท โดย ดร.ปริญญา หอมเอนก