ผลวิจัยชี้ “ออฟฟิศแบบเปิด” ช่วยให้พนักงานแอคทีฟมากขึ้น

ออฟฟิศแบบเปิด

21 มิถุนายน 2562

จากการสำรวจของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา พบว่า “ออฟฟิศแบบเปิด” จะช่วยให้พนักงานมีความกระตือรือร้นมากขึ้น

เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนาได้เปิดเผยถึงผลการสำรวจที่น่าสนใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในออฟฟิศที่ส่งผลต่อคนทำงาน โดยระบุว่า สภาพแวดล้อมในออฟฟิศแบบเปิด (Open – plan Offices) ซึ่งพนักงานสามารถนั่งทำงานร่วมกันในพื้นที่ต่างๆ ของออฟฟิศ ไม่มีการแบ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวหรือแบ่งโต๊ะของแต่ละคนแยกต่างหากจากกันด้วยพาร์ทิชั่น จะช่วยให้พนักงานมีความกระตือรือร้นและตื่นตัวในการทำงานมากขึ้น มีความเครียดน้อยลง

งานวิจัยดังกล่าวระบุว่า “จากการสำรวจคนทำงาน 231 คน จาก 4 บริษัท ซึ่งได้มีการปรับสภาพแวดล้อมให้เป็นออฟฟิศแบบเปิด ไม่มีพาร์ทิชั่นกั้นระหว่างโต๊ะทำงาน โดยนำเซนเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจและการเคลื่อนไหวของร่างกายไปติดบริเวณหน้าอกของพนักงานตลอดระยะเวลา 3 วัน พบว่า ออฟฟิศแบบเปิดทำให้พนักงานมีการขยับเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น 32% นอกจากนั้นยังมีการพูดคุยสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงานมากขึ้น ซึ่งช่วยให้พนักงานมีความเครียดลดน้อยลง และลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า”

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์เอสเธอร์ สเติร์นเบิร์ก (Esther Sternberg) ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแอริโซนาซึ่งเป็นหนึ่งในทีมนักวิจัย ยังกล่าวด้วยว่า “คนทำงานทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าการขยับร่างกายระหว่างเวลาทำงานจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าการนั่งอุดอู้อยู่กับที่ทั้งวัน แต่ปัญหาก็คือ แม้พวกเขาจะรู้เรื่องนี้และได้รับคำแนะนำไปมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญอยู่ดี ดังนั้น การปรับเปลี่ยนดีไซน์ของออฟฟิศให้เป็นออฟฟิศแบบเปิดอาจเป็นหนทางที่ดีในการช่วยส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพของพนักงาน”

อย่างไรก็ดี งานวิจัยชิ้นนี้ก็ขัดแย้งกับอีกหลายงานวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าออฟฟิศแบบเปิดส่งผลให้พนักงานมีความเครียดมากขึ้น เช่น งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งควีนแลนด์ที่บอกว่า คนทำงานในออฟฟิศแบบเปิดจะมีความเครียดสูง ความดันโลหิตสูง ผลการทำงานต่ำ และมีอัตราการลาออกมากขึ้น เนื่องจากรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว รู้สึกไม่ปลอดภัย กังวลว่าคนอื่นจะเห็นและได้ยินตลอดว่าตนเองทำอะไรบ้าง ได้ยินเสียงรบกวนจากเพื่อนร่วมงานจนขาดสมาธิ เป็นต้น หรืองานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ระบุว่า ออฟฟิศแบบเปิดนั้นทำให้พนักงานมีลักษณะ “ปิด” มากกว่าเดิม โดยพบกว่าพนักงานในออฟฟิศแบบเปิดจะมีการสื่อสารกันแบบตัวต่อตัว (face-to-face) ลดลงถึง 70% ใช้ระยะเวลาในการสื่อสารกันน้อยกว่าเดิมราว 1.7 ชั่วโมงต่อวัน แต่กลับใช้วิธีการสื่อสารผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การโต้ตอบผ่านอีเมล์หรือแชตผ่านโปรแกรมต่างๆ มากขึ้น

ที่มา :  วารสาร HR Society magazine ปีที่ 16 ฉบับที่ 190 เดือนตุลาคม 2561

Copyright ©2024  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?