สิทธิประโยชน์ทางภาษี ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

คนทำงานส่วนใหญ่รู้ว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือเงินออม แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่านี่คือสิทธิภาษีที่พลาดไม่ได้ เพราะทุกบาทที่สะสมวันนี้ อาจช่วยประหยัดภาษีปีนี้ไปพร้อมกับสร้างเงินก้อนเกษียณในอนาคต

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

เป็นสวัสดิการทางการเงินที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวให้แก่ลูกจ้างภาคเอกชน

วัตถุประสงค์: เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณ

แหล่งเงินทุน: ประกอบด้วยเงินสะสมของลูกจ้าง เงินสมทบของนายจ้าง และผลประโยชน์จากเงินทั้งสองส่วน

ประเด็นภาษีในการลงทุน

เงินสะสม: หักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ รวมกับกองทุนบำนาญภาคเอกชน กองทุน RMF และเบี้ยประกันบำนาญ ไม่เกิน 500,000 บาท/ปี

เงินสมทบ: ไม่ถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินในปีที่นายจ้างจ่ายสมทบ แต่จะถูกนำมาคำนวณเมื่อออกจากกองทุน

ผลประโยชน์ในการลงทุน: ได้รับการยกเว้นภาษีจนกว่าจะมีการจ่ายคืน

การยกเว้นภาษีเมื่อเกษียณอายุ

สมาชิกของกองทุนจะได้รับการยกเว้นภาษี ทั้งเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ หากอยู่ในเงื่อนไขนี้

• ออกจากงานเมื่อมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

• เป็นสมาชิกกองทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

หากลาออกก่อนเกษียณ

กรณีที่ลาออกก่อนอายุ 55 ปี

• อายุสมาชิกน้อยกว่า 5 ปี: เงินที่ได้รับจากกองทุนทั้งหมดจะต้องถูกนำไปรวมเป็นเงินได้พึงประเมิน เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า

• อายุสมาชิก 5 ปีขึ้นไป: สามารถเลือกแยกคำนวณภาษี ซึ่งมีสิทธิหักค่าใช้จ่าย ช่วยลดภาระภาษีได้

อ่านบทความนี้เพิ่มเติมใน เอกสารภาษีอากร ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2568
พร้อมบทความที่น่าสนใจ โดยนักเขียนผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 ท่าน

สิทธิประโยชน์ทางภาษีในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

อ่านบทความอื่นๆ
จัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างไร เมื่อถูกเลิกจ้างหรือนายจ้างเลิกกิจการ?
เจาะ 5 เรื่องเด่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการเลื่อนส่งเงินสะสมในช่วงวิกฤติ
ชวนเช็กยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

Copyright ©2025  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?