การจ้างพนักงานบัญชีไม่ใช่แค่หาคนมีประสบการณ์ แต่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ทำบัญชีให้ครบถ้วนตามกฎหมายที่กำหนดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ผู้ประกอบการควรรู้และเตรียมตัวตั้งแต่ขั้นตอนรับสมัคร แจ้งพนักงานให้เข้าใจเงื่อนไข ไปจนถึงการกำหนดหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน เช่น ใครจะจ่ายค่าทดสอบ ใครเก็บหลักฐาน และใครแจ้งข้อมูลกับ DBD ภายในเวลา 30 วัน
บทความนี้สรุปประเด็นสำคัญที่เจ้าของกิจการและฝ่ายบุคคลต้องรู้ เพื่อไม่ให้ผิดข้อกฎหมาย และบริหารจัดการทีมบัญชีได้อย่างถูกต้องตั้งแต่ต้นทาง
คุณสมบัติของผู้ทำบัญชี
• กำหนดคุณสมบัติผู้ทำบัญชีให้ครบตามกฎหมาย ตั้งแต่ขั้นตอนรับสมัคร
• แจ้งพนักงานบัญชีทั่วไปให้เข้าใจเงื่อนไข หากจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นผู้ทำบัญชี
• ผู้ทำบัญชีต้องมีคุณวุฒิตามที่กฎหมายกำหนด ต้องอบรมผ่านหลักสูตร e-Learning ของ DBD และผ่านการทดสอบไม่ต่ำกว่า 60%
• ควรตกลงให้ชัดเจนว่า พนักงานหรือกิจการเป็นผู้จ่ายค่าอบรมและค่าทดสอบ
เงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี
• ผู้ทำบัญชีเดิมทำบัญชีต่อได้ ไม่ต้องสอบซ้ำ
• หากจะสนับสนุนพนักงานใหม่ให้เป็นผู้ทำบัญชี ต้องตกลงกันเรื่องค่าธรรมเนียมรายปีของ สมาชิกสามัญของสภาวิชาชีพบัญชี ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ
• จัดเก็บหลักฐานการเป็นสมาชิกไว้ที่ฝ่ายบุคคล
แจ้งรายละเอียดการทำบัญชี
• ผู้ทำบัญชีต้องแจ้งรายละเอียดการทำบัญชีในเว็บไซต์ DBD ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เริ่มรับทำบัญชี
• ควรกำหนดเป็นหน้าที่ชัดเจนสำหรับผู้ทำบัญชีของกิจการ
• หลักฐานการแจ้งต้องส่งให้ฝ่ายบุคคลจัดเก็บในแฟ้มพนักงาน
แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ทำบัญชี
• เมื่อเปลี่ยนผู้ทำบัญชีหรือยกเลิกการทำบัญชี ต้องแจ้งในเว็บไซต์ DBD ใน 30 วัน นับจากวันที่ผู้ทำบัญชีคนใหม่เริ่มรับทำบัญชี หรือวันที่ยกเลิกการทำบัญชี
• ผู้ทำบัญชีคนใหม่ที่เริ่มทำบัญชี ต้องส่งหลักฐานให้ฝ่ายบุคคลของกิจการเก็บไว้
คุณสมบัติอื่นๆ อ่านเพิ่มได้ในวารสาร “เอกสารภาษีอากร” ฉบับเดือนมิถุนายน 2568
อ่านบทความอื่นๆ
New Version คุณสมบัติผู้ทำบัญชี
เงื่อนไขใหม่ การเป็นผู้ทำบัญชี