Letter of Credit สำคัญอย่างไรในการทำธุรกิจ?

26 พฤศจิกายน 2564

letter of credit

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคงแล้ว นอกจากผู้บริหารและบุคลากรที่มีความสามารถแล้ว ขาดไม่ได้คือเงินทุนหมุนเวียนที่อาจมาจากหลายช่องทาง และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Letter of Credit (L/C) หรือตราสารเครดิต รายละเอียดและประโยชน์ของ L/C นี้จะเป็นอย่างไร ลองตามไปดูกัน

Letter of Credit (L/C) คืออะไร?

Letter of Credit (L/C) หรือตราสารเครดิต เป็นเอกสารยืนยันการชำระเงินในการซื้อขายสินค้า โดยธนาคารจะชำระเงินในนามของผู้ซื้อ แล้วจึงมาเรียกเก็บเงินกับผู้ซื้อภายหลัง

L/C จึงไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นหลักประกันการชำระเงินที่ยืนยันให้ผู้ขายมั่นใจว่าจะได้เงินค่าสินค้าอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ธนาคารจะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของการตรวจ หรือรับ-ส่งสินค้า แต่จะทำหน้าที่เพียงตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงการชำระเงินแก่ผู้ขาย เมื่อฝ่ายผู้ขายได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน หากการซื้อขายหรือตัวสินค้ามีปัญหาผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องจัดการเคลียร์กันเอง

ดังนั้นสรุปในภาพรวม L/C จึงมีลักษณะเหมือนกับการที่ผู้ซื้อยื่นขอยืมเงินจากธนาคาร โดยที่ให้ธนาคารเป็นคนจ่ายค่าสินค้าไปก่อน แล้วค่อยคืนเงินธนาคารภายหลังพร้อมดอกเบี้ยนั่นเอง และดอกเบี้ยในที่นี้ก็คือจะเรียกว่าค่าธรรมเนียมจากการทำ L/C

ประเภทของ Letter of Credit

L/C จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามรายละเอียดดังนี้
1. ประเภทเพิกถอนได้ (Revocable Letter of Credit) คือ เมื่อธนาคารของผู้ซื้อเปิด L/C ให้ธนาคารของผู้ขายแล้ว ผู้ซื้อหรือธนาคารผู้เปิด L/C มีสิทธิที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือแจ้งยกเลิก L/C เมื่อไรก็ได้ โดยไม่ต้องให้ผู้ขายหรือธนาคารฝ่ายผู้ขายยินยอม ดังนั้นสำหรับผู้ขายเองแล้วควรหลีกเลี่ยง L/C ประเภทนี้ เพราะมีความเสี่ยงสูงจากการถูกยกเลิกคำสั่งซื้อ

2. ประเภทเพิกถอนไม่ได้ (Irrevocable Letter of Credit) คือ เมื่อธนาคารของผู้ซื้อเปิด L/C ไปแล้ว ผู้ซื้อหรือธนาคารผู้เปิด L/C จะไม่สามารถทำการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ ใน L/C ฉบับนั้นได้ หากฃผู้ขายไม่ยินยอมฃ

ประโยชน์ของการทำ Letter of Credit

• ทำให้ความเสี่ยงของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เพราะมีธนาคารเข้ามาเป็นตัวกลางในการชำระเงินค่าสินค้า ช่วยสร้างความเชื่อมั่นระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายได้ดียิ่งขึ้น
• สำหรับผู้ซื้อสินค้า จะช่วยให้ธุรกิจอยู่ในสภาพคล่อง เพราะไม่ต้องใช้เงินสดในการมัดจำหรือสั่งซื้อสินค้า สามารถรับสินค้ามาขายก่อนและค่อยนำเงินกับทางธนาคาร L/C ภายหลัง โดยจะมีระยะเวลาภายใน 90 วัน
• สำหรับผู้ขายสินค้า สามารถวางใจได้ว่าเมื่อได้จัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อแล้วก็จะได้รับเงินค่าสินค้านั้นจริง

โดยส่วนใหญ่แล้ว Letter of Credit จะถูกนำมาใช้ในการซื้อขายส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ โดยการทำการค้าในรูปแบบนี้ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือและไว้วางใจซึ่งกันและกันทั้ง 2 ฝ่าย คือผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนั้นการมีธนาคารเข้ามาเป็นตัวกลาง จะเชื่อมให้การทำธุรกิจนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

 

 

ข้อมูลอ้างอิง

www.exim.go.th

Copyright ©2024  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?