สัมภาษณ์ รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
“ภาวะวิกฤต* เป็นสถานการณ์ที่ระเบียบวิธีการที่กำหนดไว้ รวมถึงองค์ความรู้และทรัพยากรไม่สามารถแก้ปัญหาได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นในเชิงปฏิบัติหรือในเชิงบริหารจัดการ”
การตัดสินใจว่าเป็นภาวะวิกฤตหรือไม่ ต้องประเมินจากผู้ปฏิบัติงาน ร่วมกับข้อมูล เพื่อประเมินว่าควรเตรียมทรัพยากร หรืออำนาจบริหารจัดการให้แก่ผู้ปฎิบัติงานอย่างไร
*นิยาม “ภาวะวิกฤต” ในมุมมองของ รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช
“ผู้บริหารในภาวะวิกฤต มีหน้าที่เป็น Enabler ไม่ใช่แค่ Facilitator เพราะ Facilitator เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก แต่ Enabler คือคนที่ทำให้ทีมทำภารกิจให้สำเร็จเมื่อวิกฤตเกิดขึ้น”
หน้าที่ของผู้บริหาร คือขยายขีดความสามารถให้ทีมงาน รวมถึงหาทรัพยากรเพิ่ม เชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เข้าด้วยกัน
“ทุกองค์กรควรทำ “แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ”0(Business0Continuity0Plan: BCP) เพื่อลดความเสียหายจากเหตุการณ์ฉุกเฉินและฟื้นตัวจากภาวะหยุดชะงักทางธุรกิจ”
แผน BCP จะระบุถึงเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงซึ่งอาจเกิดขึ้นกับองค์กร จะเกิดความเสียหายอะไรบ้าง และประเมินผลกระทบที่จะตามมา
“ในภาวะวิกฤต บทบาทของ HR จะเปลี่ยนเป็นการบริหารกำลังคน เพื่อสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น จัดหาผู้ปฏิบัติงานไปช่วยสนับสนุนงานที่ขาดแคลน”
HR ต้องเข้าใจลักษณะงานของทีมภาคสนาม รู้ว่าต้องจัดหากำลังคนเสริมอย่างไร และสามารถโยกย้ายบุคลากรจากส่วนกลางเพื่อสนับสนุนพื้นที่วิกฤตได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด
“ในนิยามของดิฉัน คำว่า “ภาวะวิกฤต” คือ สถานการณ์ที่ความรู้ ทรัพยากร และระเบียบวิธีการในการแก้ปัญหาที่มี ไม่สามารถจัดการหรือแก้ปัญหานั้นได้อีกต่อไป”
การตัดสินใจว่าเป็นภาวะวิกฤตหรือไม่ ต้องประเมินจากผู้ปฏิบัติงาน ร่วมกับข้อมูลเพื่อประเมินว่าควรเตรียมทรัพยากร หรืออำนาจบริหารจัดการให้แก่ผู้ปฎิบัติงานอย่างไร