ไม่ว่าจะเป็นคลินิกความงาม ร้านเลเซอร์ หรือบริการเสริมความงามรูปแบบใด หากมีรายได้จากการให้บริการหรือจำหน่ายสินค้า ย่อมมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเสียภาษีอย่างถูกต้อง หลายกิจการอาจเริ่มต้นจากขนาดเล็ก หรือใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการโปรโมตและให้บริการ แต่เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นภาษีคือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเข้าใจประเภทภาษีที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้วางแผนได้อย่างเป็นระบบ ไม่เสียโอกาส ไม่โดนปรับ และยังบริหารการเงินได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บทความนี้ สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่าแต่ละประเภทของกิจการเสริมความงาม ทั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล มีหน้าที่ต้องเสียภาษีประเภทใดบ้าง พร้อมข้อควรรู้ที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
• กิจการเสริมความงามที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.94 (กลางปี) และ ภ.ง.ด.90 (ปลายปี)
• รายได้เข้าข่ายตามมาตรา 40 (1), (2), (6) และ (8) ของประมวลรัษฎากร
• หากหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา: มาตรา 40 (1) และ (2) หักได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท และมาตรา 40 (6) และ (8) หักได้ 60% ของรายได้
• เลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริงแทนการหักแบบเหมาได้
• การคำนวณภาษีใช้เกณฑ์เงินสด (รับจริงจ่ายจริง) และต้องคำนวณภาษีเมื่อสิ้นปีปฏิทิน
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
• กิจการตั้งใหม่จะถือวันเริ่มตั้งถึงวันใดเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกก็ได้
• รายได้และรายจ่ายให้คำนวณตามเกณฑ์สิทธิ์ คือ รับรู้เมื่อเกิดรายการ ไม่จำเป็นต้องได้รับหรือจ่ายจริงในรอบบัญชีนั้น
• ยื่นภาษีปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ภ.ง.ด.51 และ ภ.ง.ด.50
• อัตราภาษีทั่วไป 20% ของกำไรสุทธิ หากเป็นธุรกิจขนาดย่อม ใช้อัตราก้าวหน้า 15–20%
• ธุรกิจขนาดย่อมได้รับยกเว้นภาษีสำหรับกำไรสุทธิ 300,000 บาทแรก
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
• เมื่อบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจ่ายเงินให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายตามประเภทเงินได้มาตรา 40 (1)–(8)
• อัตราหักภาษีมีตั้งแต่ 1%, 2%, 3%, 5%, 10% จนถึงอัตราก้าวหน้า ขึ้นอยู่กับลักษณะของรายได้
• ต้องพิจารณาหักภาษีตามกฎหมาย ได้แก่ มาตรา 3 เตรส, 50, 69 ทวิ, 69 ตรี, คำสั่ง ท.ป.4/2528
• กิจการมีหน้าที่นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
• การรักษาพยาบาลตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ญ) แห่งประมวลรัษฎากร
• หากไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการขายยา อาหารเสริม หรือเวชภัณฑ์ที่ขายตรงให้ลูกค้าโดยไม่ผ่านแพทย์
• การขายสินค้าดังกล่าวเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องออกใบกำกับภาษีและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อความรับผิดเกิดขึ้น
อ่านเพิ่มเติมใน CPD&Account ฉบับเดือนพฤษภาคม 2568
พร้อมบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยนักเขียนมากประสบการณ์
อ่านบทความอื่นๆ
พ.ร.ก. ภาษีส่วนเพิ่ม จัดเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติ
สิทธิประโยชน์ทางภาษี โอนกิจการ vs ควบรวมกิจการ
หลักการวางแผนภาษีช่วยเพิ่มกำไรให้กิจการ