อนุมัติร่าง พรบ.การประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน

มติ ครม 301018

18 เมษายน 2563

คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ร่าง พรบ.การประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

คณะรัฐมนตรีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน  พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานอัยการสูงสุด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

สำหรับสาระสำคัญของร่างของร่างพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ประกอบด้วย

บทนิยาม  : กำหนดบทนิยาม “การประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน” หมายความว่า การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับค่าบริการหรือค่าตอบแทนอย่างอื่น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

คณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน : กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินมีมาตรฐาน และอยู่ภายใต้ระบบควบคุมจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเดียวกัน จำนวน 15 คน โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินเป็นกรรมการและเลขานุการ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน : กำหนดให้มีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ มีฐานะเป็นนิติบุคคลอยู่ในกำกับของ กค. เพื่อทำหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการจดทะเบียนและออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ และรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โดยมีผู้อำนวยการที่มาจากการแต่งตั้งของคณะกรรมการโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างและรับผิดชอบในการดำเนินกิจการทั้งปวงของสำนักงาน

การประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน : กำหนดให้ผู้อำนวยการเป็นนายทะเบียน มีอำนาจหน้าที่ในการออกใบอนุญาตรับขึ้นทะเบียน รักษาทะเบียนผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินรับอนุญาต และทะเบียนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการให้บริการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน และมีอำนาจหน้าที่อื่นตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการจัดให้มีมาตรฐานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพื่อเป็นหลักในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินรับอนุญาต โดยออกเป็นกฎกระทรวง

จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน :  กำหนดให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ จัดให้มีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินโดยออกเป็นกฎกระทรวง และกำหนดให้นายทะเบียนมีอำนาจในการวินิจฉัยชี้ขาดการประพฤติผิดจรรยาบรรณ โดยทำเป็นคำสั่ง และให้มีการอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อคณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินได้

การตรวจสอบและการบัญชี : กำหนดให้สำนักงานวางและรักษาไว้ซึ่งบัญชีที่เป็นไปตามหลักสากลและสอดคล้องกับระบบการบัญชีที่ กค. วางไว้ และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นผู้สอบบัญชีของสำนักงาน

เบ็ดเตล็ด  : กำหนดให้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นายทะเบียนพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในที่ดิน อสังหาริมทรัพย์หรือสถานที่อื่นใด ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน หรือเข้าไปในสถานที่ประกอบการของผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินรับอนุญาตหรือนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการให้บริการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน หรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือชี้แจงข้อเท็จจริงหรือทำคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสารหรือหลักฐานใด เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบมาตรฐานการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด โดยให้กรรมการ อนุกรรมการ นายทะเบียน และพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

กำหนดโทษ : มีบทกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ไม่ได้รับอนุญาต ใบอนุญาตขาดอายุ นิติบุคคลใดประกอบกิจการให้บริการประเมินมูลค่าทรัพย์สินโดยไม่ได้รับจดทะเบียน รวมทั้งกำหนดให้มีการเปรียบเทียบความผิด โดยเมื่อผู้ต้องหาได้ชำระค่าปรับตามคำเปรียบเทียบแล้วให้คดีนั้นเป็นอันเลิกกัน

 

ในระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ให้กรมธนารักษ์จัดให้มีสำนักงานและมีอำนาจสั่งให้ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างของกรมธนารักษ์เข้าร่วมปฏิบัติงานในสำนักงานได้เป็นการชั่วคราว แต่ต้องไม่เกินหนึ่งปี

 

สรุปหัวข้อการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 ตุลาคม 2561

  1. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การแลกเปลี่ยนข้อมูลตามคำขอระหว่างประเทศและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติระหว่างประเทศ)
  2. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สิน พ.ศ. ….
  3. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
  4. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
  5. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน จำนวน 2 ฉบับ
  6. เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน)
  7. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
  8. เรื่อง ขออนุมัติการจัดทำโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปี 2560 (โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จังหวัดลำปาง)
  9. เรื่อง ขออนุมัติโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3
  10. เรื่อง ขออนุมัติดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ
  11. เรื่อง การกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
  12. 12. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง)
  13. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)
  14. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวัฒนธรรม)
  15. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง

 

ที่มา : http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/16424

Copyright ©2024  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?