อนาคตแรงงานไทย หลัง “กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” บังคับใช้ 1 ตุลาคม 2568

อนาคตแรงงานไทย หลัง “กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” บังคับใช้

สัมภาษณ์ คุณพงศ์เทพ เพชรโสม

รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

“กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) มีเป้าหมาย คือ ทำให้ทุกส่วนในระบบแรงงานอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้แข่งขันได้ในระดับโลก”

พัฒนากลไกการกำกับดูแล เพื่อคุ้มครองแรงงานตามมาตรฐานสากลส่งเสริมการจัดสวัสดิการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงาน

“การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง จะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ในช่วงเริ่มต้น จะเก็บเงินสะสมจากนายจ้างและลูกจ้างในอัตรา 0.25% ของค่าจ้าง”

เงินในกองทุนนี้จะจ่ายให้ลูกจ้างเมื่อมีการออกจากงาน ไม่ว่าลูกจ้างจะออกด้วยสาเหตุใด รวมถึงกรณีเกษียณอายุหรือเสียชีวิต

“แรงงานบางส่วนอาจเข้าไม่ถึงกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยเฉพาะผู้ที่รับงานไปทำที่บ้าน เรากำลังพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มแรงงานมากขึ้น”

เปิดให้เข้าร่วมในลักษณะสมัครใจอย่างกลุ่มแรงงานอิสระหรือฟรีแลนซ์ รวมถึงแรงงานภาคเกษตรที่ทำงานไม่ต่อเนื่องสามารถสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนได้

“ในปัจจุบันเรื่องสิทธิด้านแรงงานก้าวหน้าไปมาก ดังนั้น การคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน ทั้งนายจ้างและฝ่าย HR ควรให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิพื้นฐานและความเท่าเทียม”

ควรมองที่ประสบการณ์และความสามารถมากกว่าพิจารณาเรื่องที่เป็นอุปสรรค เช่น สภาพร่างกายหรือข้อจำกัดบางอย่างจะทำให้พลาดโอกาสจากคนที่มีศักยภาพไปได้

อ่านเพิ่มเติมใน HR Society Magazine ฉบับพฤษภาคม 2568

อนาคตแรงงานไทย หลัง “กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” บังคับใช้

อ่านบทความอื่นๆ
สื่อสารค่าตอบแทนโปร่งใส สร้างความพอใจให้พนักงาน 
บทบาท HR Influencer เปลี่ยนพนักงานให้กลายเป็นทีม 
ข้อจำกัดสิทธิบอกเลิกจ้างของนายจ้าง 

Copyright ©2025  dharmniti.co.th All rights reserved.

Log in with your credentials

Forgot your details?