งานบัญชีในยุค AI ไม่ใช่แค่การบันทึกตัวเลขอีกต่อไป เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทุกบทบาทในสายงานบัญชี ตั้งแต่ผู้ทำบัญชี ผู้บริหารการเงิน ไปจนถึงผู้สอบบัญชีและที่ปรึกษาภาษี ต่างก็ได้รับผลกระทบและโอกาสใหม่ ๆ จากการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลาทำงานซ้ำซ้อน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก หรือการวางแผนภาษีและงบประมาณอย่างแม่นยำ บทความนี้จะพาคุณสำรวจว่าแต่ละตำแหน่งในสายงานบัญชีกำลังเปลี่ยนไปอย่างไร และต้องปรับตัวอย่างไรให้ทันยุค AI Transformation
ผู้ทำบัญชี
ผลลัพธ์จากการใช้ AI
• ลดเวลาป้อนข้อมูลและลดข้อผิดพลาดจากการคีย์ผิด
• ไม่ต้องจำฟอร์มใบเสร็จหลายรูปแบบ
แนวทางใหม่ของงาน
• เปลี่ยนจากงานบันทึกข้อมูล เป็นการวิเคราะห์ยอดใช้จ่าย
• ตรวจสอบความเหมาะสมตามนโยบาค่าใช้จ่าย
• ติดตามค่าใช้จ่ายของพนักงานแบบ Real-time
ผู้บริหารทางบัญชีการเงิน
ผลลัพธ์จากการใช้ AI
• ได้ข้อมูลเร็วขึ้นแบบ Real-time
• ตัดสินใจจากข้อมูลรายจ่ายได้ทันที
• มองภาพรวม Cash Flow ได้แม่นยำกว่าเดิม
แนวทางใหม่ของงาน
• ใช้ข้อมูลประกอบการบริหารงบประมาณ
• วางแผนต้นทุน พิจารณาว่าพนักงานหรือแผนกใดใช้จ่ายเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์
ผู้สอบบัญชี
ผลลัพธ์จากการใช้ AI
• ลดงานสุ่มตรวจใบเสร็จ
• ตรวจย้อนหลังได้เร็ว เพราะจัดหมวดข้อมูลไว้แล้ว
• มีหลักฐานดิจิทัลที่เชื่อถือได้
แนวทางใหม่ของงาน
• โฟกัสการตรวจสอบเหตุผลและสาระสำคัญ แทนการเช็กตัวเลข หรือตรวจแพทเทิร์นการใช้จ่ายผิดปกติ (เบิกซ้ำซ้อน, รายการซ้ำ)
ที่ปรึกษาภาษี
ผลลัพธ์จากการใช้ AI
• รู้ทันทีว่ารายจ่ายนี้เข้าข่ายหักภาษีได้หรือไม่
• ไม่ต้องคีย์ข้อมูลเข้าแบบ ภ.ง.ด.3 และแบบ ภ.ง.ด.53
แนวทางใหม่ของงาน
• วิเคราะห์ความเสี่ยงทางภาษีได้เร็วขึ้น
• ช่วยลูกค้าวางแผนภาษีแบบมีข้อมูลสนับสนุน
ผู้ตรวจสอบภายใน
ผลลัพธ์จากการใช้ AI
• สร้าง Workflow ตรวจสอบแบบอัตโนมัติ
• ตรวจใบเสร็จได้ 100% โดยไม่ต้องใช้แรงคน
แนวทางใหม่ของงาน
• วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายว่าเป็นไปตามนโยบายขององค์กรหรือไม่
• ตรวจพฤติกรรมผู้ใช้งบ เช่น ใช้ซ้ำๆ ที่ร้านเดิม หรือจ่ายเกินเพดานที่ตั้งไว้
อ่านบทความนี้เพิ่มเติมใน เอกสารภาษีอากร ฉบับเดือนกรกฎาคม 2568
พร้อมบทความที่น่าสนใจ โดยนักเขียนผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 ท่าน
อ่านบทความอื่นๆ
ระบบ AI ช่วยพัฒนางานบัญชี
HOW TO เก่งกว่า AI สำหรับนักบัญชียุคดิจิทัล
การพัฒนา AI นำมาใช้ในธุรกิจ