การจ่ายภาษีแทนแบบ Net of Tax อาจช่วยให้ผู้รับเงินได้เงินเต็มจำนวน แต่สำหรับบริษัท นี่คือความเสี่ยงทางภาษีที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะหากไม่ได้ระบุในสัญญาอย่างชัดเจน ค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็น “ภาษีที่ออกแทน” อาจถูกสรรพากรตีเป็นรายจ่ายต้องห้ามทันที และกลายเป็นต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้นแบบไม่จำเป็น คอนเทนต์นี้จะพาไปรู้ทันประเด็นเสี่ยง พร้อมแนวทางป้องกันก่อนโดนประเมินย้อนหลัง
ออกภาษีหัก ณ ที่จ่าย
การหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบที่ผู้จ่ายเงินออกภาษีแทนผู้รับเงิน หรือที่เรียกว่า “Net of Tax” ผู้รับเงินจะได้รับเงินเต็มจำนวน แต่มีประเด็นที่ต้องพิจารณา ดังนี้
• ต้นทุนของผู้จ่ายเงินจะเพิ่มขึ้น
• ผู้จ่ายเงินต้องรับภาษีทั้งหมด
• การคำนวณฐานเงินได้พึงประเมินต้องนำภาษีที่ออกให้มาคำนวณด้วย
ความเสี่ยงทางภาษี
ค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่เกิดจากบริษัทออกภาษีแทนให้ จะนำมาหักเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ ต่อเมื่อมีการระบุข้อตกลงดังกล่าวไว้ในสัญญาว่าจ้างอย่างชัดเจน เท่านั้น หากไม่ได้ระบุ สรรพากรอาจพิจารณาว่าเป็นรายจ่ายต้องห้ามทางภาษีตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร
จัดการความเสี่ยง
• ทบทวนสัญญา: ระบุข้อตกลงการออกภาษีแทนในสัญญาว่าจ้างให้ชัดเจน
• บันทึกค่าใช้จ่าย: บันทึกด้วยยอดรวม (เงินสดที่จ่าย+ภาษีที่ออกแทน) เป็นฐานเงินได้พึงประเมินเพื่อคำนวณใหม่
• ออกหนังสือรับรองฯ (ใบ 50 ทวิ): แสดงยอดค่าใช้จ่ายที่รวมภาษีไว้ให้ครบถ้วน เพื่อให้ตรงกับรายได้ที่อีกฝ่ายรับรู้
อ่านเพิ่มเติมใน CPD&Account ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2568
พร้อมบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยนักเขียนมากประสบการณ์

อ่านบทความอื่นๆ
ภาระภาษี ในช่วงเทศกาลปีใหม่
6 กรณี ภาษีซื้อต้องห้าม
ภาษีซื้อต้องห้าม ที่ถือเป็นรายจ่ายได้

















